วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ติดอาวุธความรู้พร้อมรับมือภาษาจีน

ภาษาทุกภาษาในโลกนี้ล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง  จริงอยู่ที่อาจมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันไปเสียทุกอย่าง การถ่ายทอดข้อความหรือการแปลจากภาษาไปเป็นอีกภาษาหนึ่ง อาทิ การแปลภาษาจีน จึงมักจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะยากเกินความสามารถของมนุษย์เรา

ก่อนที่จะไปถึงขั้นการแปลภาษาจีนเป็นภาษาไทย หรือการแปลภาษาไทยเป็นภาษาจีน เราจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมด้วยพื้นฐานตั้งแต่เริ่มต้น และการศึกษาลักษณะพิเศษของภาษาจีนก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งพื้นความรู้ ที่จะช่วยก่อร่างให้เราเป็นผู้แปลภาษาจีนที่เชี่ยวชาญได้ต่อไปในอนาคต

สองอาวุธชั้นดีที่ยิ่งรู้ก็ยิ่งเข้าใจ

1. ระบบคำศัพท์ ในภาษาจีนและไทยมีความคล้ายคลึงกันคือเป็นคำโดดๆ เพียงพยางค์เดียว และนำรากศัพท์มาประสมกันจนเกิดเป็นคำใหม่ การประกอบคำในภาษาจีนนั้น นอกจากใช้รากศัพท์มาประสมกันแล้ว ก็ยังมีหลากหลายวิธี เช่น เพิ่มคำลงท้ายในคำพยางค์เดียว การซ้ำคำ การซ้อนคำ และอื่นๆ จนทำให้จีนมีคำศัพท์หลายหมื่นคำ ข้อควรระวังในการประสมคำคือ ส่วนขยายต้องอยู่ข้างหน้าของส่วนที่ต้องการขยายเสมอ เช่น (หนังสือ) + (ร้าน) = ร้านหนังสือ เป็นต้น

สิ่งที่น่าประหลาดคือ รูปแบบการสร้างคำ การใช้ และสำนวนอุปมาอุปมัยในภาษาจีนนั้นไม่ได้ต่างกันแบบต่อกันไม่ติดกับภาษาไทย ซ้ำยังสัมพันธ์กันไม่น้อย จึงทำให้การแปลภาษาจีนเป็นไทยนั้นทำได้แบบตรงตัว ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก อีกทั้งภาษาจีนนั้นอาศัยการเรียงคำเป็นหลักเช่นเดียวกับภาษาของเรา ระบบคำศัพท์ โดยเฉพาะคำกริยา วิเศษณ์ และสันธาน รวมถึงความหมายและวิธีใช้ก็สามารถเทียบเคียงได้กับภาษาไทย เราจึงอาจใช้ความเคยชินในภาษาของเรามาช่วยในการแปลภาษาจีนได้ส่วนหนึ่ง

2. ระบบไวยากรณ์ ดังที่กล่าวไปว่าการเรียงคำเพื่อสร้างประโยคขึ้นมานั้นไม่ได้ต่างจากภาษาไทยมากนัก คือ มีประธาน กริยา กรรม หากเปลี่ยนลำดับการเรียงประโยคก็อาจจะไม่ได้มีความหมายตามเดิม หรือไม่มีความหมายใดๆ เลยก็ได้

อีกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าระบบไวยากรณ์ของจีนไม่ต่างจากไทยก็คือ จีนไม่มีกริยาแสดงเวลาเหมือนอย่างในภาษาอังกฤษ หากแต่ใช้คำวิเศษณ์มาเป็นตัวบอกเวลาเช่นเดียวกับภาษาไทย นอกจากนั้นแล้วภาษาจีนยังมีการคำสันธานเพื่อเชื่อมคำ เชื่อมประโยคด้วยเช่นกัน รวมทั้งยังมีการใช้ลักษณะนามด้วย โดยวิธีใช้ลักษณะนามก็จะขึ้นอยู่กับวัตถุ สิ่งของ หรือเหตุการณ์นั้นๆ ในประโยค ซึ่งก็ไม่ต่างจากภาษาไทยเรา


จากที่อธิบายมา คงจะพอมองเห็นว่าภาษาไทยและภาษาจีนนั้นไม่ต่างกันมากจนยากเกินกว่าการทำความเข้าใจ ยิ่งเมื่อนำความรู้นี้มาประกอบเข้ากับคำศัพท์และหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่เจาะลึกลงไป ก็จะทำให้การแปลภาษาจีนมีคุณภาพยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น